1.ชื่อเป็นยา!!!
ยาคูลท์เป็นนมเปรี้ยวสัญชาติญี่ปุ่น 1000% แปลกตรงที่ชื่อไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นทั้งที่ประเทศนี้ชาตินิยมจัดมาก ”YAKULT” เป็นภาษา ”Esperanto” (ภาษาประดิษฐ์ของหมอรัสเซีย) มาจากคำว่า “Jahurto” มีความหมายเท่ากับ “yoghurt”
ซึ่งแปลตรงตัวว่า “การมีอายุยืนยาว”!!!
2.ยาคูลท์เคยบรรจุในขวดแก้ว
ตั้งแต่ปี 1935 “ยาคูลท์” เคยใช้ขวดแก้วใสกิ๊งมาตลอด สรีระของขวดมีแรงบันดาลใจจาก “Kokeishi” ตุ๊กตาโบราณ จนกระทั่งปี 1968 ปรับเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกแบบที่เราเห็นๆ ในปัจจุปัน เพราะต้นทุนถูกกว่าและน้ำหนักเบากว่าขวดแก้ว รวมกันหลายขวดก็หลายกิโล ทำให้สาวยาคูลท์ในยุคใหม่ไม่ต้องแบกขวดแก้วหนักเกินเหมือนในอดีต!
3.ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ
เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อยาคูลท์ในอดีตเป็นแม่บ้าน การมีคนส่งยาคูลท์เป็นผู้หญิงและแนะนำเรื่องสุขภาพให้ผู้หญิงด้วยกันฟัง จะทำให้รู้สึกสนิทใจกันมากกว่า ประหนึ่งรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงนั่งเม้าส์ม้อยส์ เพราะฉะนั้น “สาวยาคูลท์” จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ ค.ศ. 1963!!
4.ตั้งแถว – ตบมือ – สู้โว้ย!!
บริษัทยาคูลท์ประเทศญี่ปุ่นมีธรรมเนียมแสนเก๋จนต้องยกนิ้วให้ เพราะพนักงานในบริษัทยาคูลท์ และพี่ๆ ร.ป.ภ.จะตั้งแถวตบมือทุกครั้งเมื่อสาวยาคูลท์ญี่ปุ่นออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจ สู้โว้ย!!!
5. ‘อหิวาตกโรค’ จุดพลิกยาคูลท์ไทย
จุดที่พลิกผันจริงๆ คือ.. เมื่อปี 2515 เกิดอหิวาตกโรคระบาดแถวปากน้ำ จ.สมุทรปราการ บริษัทยาคูลท์ไทยนำยาคูลท์เพื่อเยียวยาอาการผู้ป่วย ซึ่งตอนนั้นมีที่อาการหนักอยู่ 3 คน ซึ่งถ้าผู้ป่วยจะใช้ยาคูลท์แทนยาจะต้องหยุดดื่มยาทั้งหมด และต้องดื่มยาคูลท์ต่างน้ำ ปรากฏว่าสามชั่วโมงผ่านไป… คนไข้ที่ดื่มยาคูลท์หยุดถ่าย และกลายเป็นกระแส Talk Of The town ณ บัดนั้น
6.ยาคูลท์ไทยมีไซส์เดียว??
ยาคูลท์รอบโลกมีไซส์ที่แตกต่างกัน เช่น ขวดไซส์ 100 มล. เห็นดาดดื่นที่ สิงค์โปร์ ไต้หวัน และจีน แต่ที่นี่ประเทศไทย มีไซส์เดียวตลอดกาลนั่นคือ 80 มล.
และขนาดนี้ก็มีขายเฉพาะเกาหลี มาเลเซีย และอเมริกาเท่านั้น เพราะไซส์นี้มีจุลินทรีย์แลคโตบัลซิลัสมากกว่า 8,000 ล้านตัว เชื่อว่าเพียงพอสำหรับการสร้างสมดุลภายในลำไส้เหมาะกับคนไทย และที่สำคัญ ถ้ากระซวกมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียขี้แตกขี้แตนไม่รู้ตัว!!
7. ‘คอคอด’ บอกอะไร!?
แค่เห็นเงาก็รู้แล้วว่าเป็นยาคูลท์!! เพราะขวดนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้ดีไซน์ขวดเป็นเอกลักษณ์สุดๆ โดยเฉพาะ “คอคอด” ซึ่งเชื่อว่าให้ถือสะดวกและลิ้มรสช้าๆ จะได้ไม่ดื่มทีเดียวหมด!!
8.ยาคูลท์สูตรจุลินทรีย์ทะลัก!
”Yakult 400LT” คือสูตรเด็ดสำหรับคนรักจะถ่าย(อึ)ให้คล่อง เพราะยาคูลท์ขวดนี้ลดความหวาน ลดแคลอรี่หลายเท่าตัว แต่เพิ่มแลคโตบัลซิลัสตระกูล ”Shirota” เกือบ 400,000 ล้านตัวต่อขวด!! จากไซส์ปกติมีเพียง 6.5 พันล้านหรือให้เต็มที่ก็แค่ 3 แสนล้านตัวเท่านั้น!!
9.อุณหภูมิที่ยาคูลท์ลั้ลลา ~~
เลือกซื้อยาคูลท์จากตู้แช่ที่เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เพราะดีกรีความหนาวเยี่ยงนี้จะทำให้ได้จุลินทรีย์ลั้ลลาและพร้อมจะทำงานให้เราได้เต็มที่ค่ะ
10.ว้าว ~ เครื่องสำอางยาคูลท์!
กาลครั้งหนึ่ง ณ 1971 ยาคูลท์นึกเปรี้ยวอยากให้ผู้หญิงญี่ปุ่นงามหมดจรดปลายเท้า สกัดแบคทีเรียพันธุ์ดีอย่างแลคโตบัลซิลัสเป็นเครื่องสำอางครบทุก LINE มีสาวยาคูลท์เคาะประตูขายตรงถึงหน้าบ้านจนกระทั่งขายในซาลอนอย่างเอิกเกริก หลังจากนั้นอีก 10 ปี เครื่องสำอางสายพันธุ์ยาคูลท์ต้องโบกมือลาหนังหน้าสาวๆ เพราะผู้บริหารอยากจะ FOCUS เฉพาะนมเปรี้ยว ไม่อยากให้เลอะเทอะไปกว่านี้!!
11.ขวดนี้สตรีขอจอง!
แม้ยาคูลท์ไทยแลนด์ (หรือเกือบทั่วโลก) จะมีรสชาติสุดคลาสสิคชูโรง ซึ่งบางครั้งสาวกยาคูทล์แอบเซ็งเพราะอยากลองจิบ&ลิ้มรสชาติใหม่ๆ บ้าง แต่สำหรับประเทศต้นตำรับอย่างญี่ปุ่นก็ขยันออกสูตรใหม่ให้เปิดซิงตลอด อย่างเช่น “Yakult SHEs” เจาะกลุ่มสตรีรักสวยรักงามเป็นการเฉพาะ เพราะนมเปรี้ยวสูตรนี้อัดแน่นด้วยแคลเซียม ,เหล็ก และที่สำคัญคือคอลาเจน!!
12.ยาคูลท์กำจัดกลิ่นหอยเปรี้ยว??
ความเชื่อที่ว่า ดื่มยาคูลท์แล้วช่วยกำจัดกลิ่นจากจุดซ่อนเร้น เนื่องจากเชื่อกันว่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ชื่อว่า “แลคโตบาซิลัส” ในยาคูลท์เข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวการในการสร้างกลิ่นเหม็นให้กับหุบเขาเร้นรักของคุณสาวๆ ทั้งหลาย ได้ขอบอกตรงนี้ดังๆ ชัดๆ ว่า.. “มันไม่เป็นความจริงคะ”!!!
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2362892