Fast Fact เลี้ยงสัตว์ในบ้านหรือห้องนอนได้หรือไม่

 

          ครั้งแรกที่ตัดสินใจว่าจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยง คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะ “เลี้ยง” สัตว์ที่คุณเลือกแล้วไปตลอด ไม่ปล่อยหรือทิ้งมันกลางทาง โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงยอดนิยมส่วนใหญ่คือ “สุนัขและแมว” ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ และบางคนรักมากถึงขนาดอยากเลี้ยงสัตว์ในห้องนอนเลยทีเดียว แต่ก็กลัวว่าจะมีเชื้อโรคหรืออันตรายใดๆ หรือไม่ …

 

         อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของคนใดสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ “คุณหมอแมว” แพทย์คนดังจากแวดวงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้นำเสนอความรู้ดีๆ ที่เชื่อว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ทั้งตอบคำถามคนเลี้ยงให้สบายใจและสัตว์เลี้ยงก็จะมีความสุขเพราะได้อยู่กับเจ้าของมันไปอีกนานแสนนาน 

 

 

Fast Fact เลี้ยงสัตว์ในบ้านหรือห้องนอนได้หรือไม่ แบบหมอแมว

 

           เวลามีข่าว ละคร รายการสยองขวัญ เอาเรื่องเห็บหมาไปอยู่ในตัวคนมาฉาย มักเกิดกระแสความกลัวขึ้นมาตามด้วยการทิ้งสัตว์ เรื่องของเรื่องคือไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย

 

 

1. เห็บหมาแมวอาศัยในตัวคนได้หรือไม่ ?

 

          เห็บหมาแมวอาจจะกัดคนได้ ดูดเลือดคนได้ แต่มันไม่ได้อยากอยู่กับคนหรอกครับ

 

          เห็บหมาแมวเวลาวางไข่ก็ต้องออกจากตัวสัตว์ก่อน แล้วกับคนจะมีอะไรพิเศษที่มันจะต้องไปวางไข่ในนั้น

 

          อวัยวะวางไข่ของเห็บแทงทะลุผิวหนังไม่ได้นิ

 

         นอกจากรายการชมรมขนหัวลุกตอนที่ 1 ที่สร้างให้เห็บหมาอาศัยในตัวเด็กได้ในสภาวะไม่มีอากาศ ยังไม่มีรายการใดกล้าสร้างแบบนั้นอีกเลย ผิดธรรมชาติเกิน

 

         บางกรณีอาจเจอเห็บหมัดวางไข่บนคนที่นอนนิ่งๆ หมดสตินานๆ แต่ถ้ามีคนดูแลหรือขยับตัวได้ มันก็ไม่อยู่หรอก

 

         ดังนั้น เลี้ยงหมาแมวถ้ามั่นใจว่าไม่มีเห็บก็ไม่ต้องกลัวครับ (แต่ถ้ามีก็ระวังเพราะมันเข้าหูได้ เข้าจมูกไม่น่ากลัว น้ำมูกไหลมันก็จมขี้มูกตายแล้ว)

 

 

2. ขนหมาแมวเข้าปอดได้ไหม ?

 

          โดยธรรมชาติคนปกติยากมาก เพราะว่าปอดมนุษย์มีกลไกป้องกันอยู่แล้ว

 

          บุหรี่น่ากลัวกว่าขนหมาขนแมวหลายเท่า เอาคนสูบบุหรี่ออกจากบ้านก่อนอาจจะสมเหตุสมผลกว่า

 

 

3. เลี้ยงแมวหมาทำให้เป็นหอบหืดได้ไหม ?

 

          งานวิจัยที่ทำในเด็ก เท่าที่อ่านผ่านมาทั้งหลายก็บอกว่าไม่ได้ทำให้เกิดการเป็นหอบหืดมากขึ้น

 

          การเลี้ยงก่อนขวบปีแรก ทำให้เสี่ยงต่อการแพ้ขนแมวมากขึ้น แต่ถ้าหลังจากนั้นไม่ได้มากกว่าคนทั่วไป

 

          ส่วนของหมา … ผลไม่ชัดเจน

 

 

4. เลี้ยงแมวหมาบนเตียงนอนได้ไหม ?

 

          ไม่ควร

 

          เสี่ยงต่อการติดเชื้อพวกเชื้อราผิวหนัง

 

          ถ้าแพ้ล่ะซวย

 

          ถ้าแมวหมามีเห็บหมัดพยาธิ … ซวย

 

          แต่ถ้ามั่นใจว่าไร้พยาธิ ไร้เห็บหมัด ไร้เชื่้อรารักษาความสะอาดดี … ก็อีกเรื่องนึง

 

          ถ้าเลี้ยงบนเตียงนอนมาเป็น 5 ปี 10 ปี ไม่แพ้ นอนเตียงเดียวกันต่อไปเถอะครับ ไม่แพ้หรอกครับ ถ้าแพ้ก็ว่ากันอีกที

 

 

5. แพ้ขนแมวขนหมา

 

          การแพ้ อาจจะมีอาการคัน ผื่น น้ำมูก จาม หายใจลำบาก แตกต่างกันไปในแต่ละคน

 

          การแพ้สัตว์เลี้ยงเป็นภูมิแพ้แบบหนึ่ง แต่คนเป็นภูมิแพ้ไม่จำเป็นต้องแพ้สัตว์เลี้ยง (อาจจะแพ้ไรฝุ่น แพ้ละอองเกสร แพ้แมลงสาบก็ได้)

 

          แพ้ก็คือแพ้ ไม่แพ้ก็คือไม่แพ้ คนแพ้เจอนิดเดียวก็แพ้ คนที่ไม่แพ้ ไปนอนคลุกก็ไม่เป็นไรจริงๆ

 

          ที่เห็นบางคนตอนแรกไม่แพ้ แต่ตอนหลังแพ้ จริงๆ คือคนนั้นแพ้ แต่แสดงอาการช้า หมอแมวก็เป็นหนึ่งในนั้น 

 

6.แพ้ขนหมาขนแมวทำอย่างไร ?

 

         ที่ผ่านมาแนะนำคนไข้ทั้งหลายทั้งปวง คำถามแรกที่คนไข้ถามคือ “ต้องเอาหมาแมวไปทิ้งไหม”

         คำตอบคือ “นั่นคือหนทางสุดท้ายที่แนะนำเลยครับ”

 

ทางแก้เมื่อแพ้สัตว์เลี้ยง

 

         การแพ้สัตว์เลี้ยงไม่ใช่การแพ้ขน แต่มักเป็นการแพ้ผิวหนัง (ขี้ไคลหรือรังแค) และน้ำลายสัตว์ ดังนั้น

 

          ดูให้แน่ว่าแพ้สัตว์เลี้ยง จัดการเรื่องการแพ้ที่เจอบ่อยอย่างอื่น เช่น แพ้ซากแมลงสาบ (ที่ตายกลายเป็นผงละอองมองไม่เห็นด้วยตา) แพ้ไรฝุ่น แพ้ควันบุหรี่ ฯลฯ แก้ไขตรงนี้ก่อน ถ้าหายจะได้ไม่ต้องโทษสัตว์เลี้ยง

 

          อาบน้ำสัตว์บ่อยๆ การอาบน้ำจะช่วยล้างขี้ไคลตามตัวสัตว์ออกไป ทำให้เราแพ้ยากขึ้น (ป้องกันเชื้อราด้วย)

 

          เอาหนังสือ – พรมออกจากห้อง เพราะมันจะเก็บฝุ่นรังแคไว้

 

          เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยๆ เอาที่นอนไปตากแดด ตากแดดไม่ได้ป้องกันแพ้สัตว์เลี้ยงหรอก ฆ่าไรฝุ่นไปด้วย

 

          จัดมุมที่ปลอดสัตว์เลี้ยง จัดโซนให้ดี เพราะในบางเวลาที่จำเป็น จะได้มีที่หลบภัย

 

          กินยา บางคนติดแมวหมามากๆ ต้องนอนกอด ถ้าเช่นนั้นก็กินยาซะครับ

 

          หาที่กรองอากาศมาใช้และไม่ใช่แบบธรรมดา หาแบบที่เรียกว่า HEPA High-efficiency particulate air เพราะเราไม่ได้จะกรองแค่ขน เราจะกรองขี้ไคลสัตว์

 

ในกรณีที่แพ้รุนแรงแบบหอบหืด

 

          ไปตรวจกับแพทย์ภูมิแพ้ เพื่อดูว่าแพ้สัตว์เลี้ยงจริงๆ หรือไม่

 

          ใช้ยาไปเลย

 

          ทำทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมด

 

          ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ต้องยกให้คนอื่นเลี้ยง 

 

         ซึ่งในชีวิตที่ผ่านมาของการเป็นแพทย์ รักษาคนที่แพ้สัตว์เลี้ยงหลายคน มีน้อยกว่า 5 รายที่สุดท้ายต้องแยกกับสัตว์เลี้ยงครับ

.

.

.

.

.

.

.

.

ที่มา :: หมอแมว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *