ด้วยกระแสความแรงสมกับเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ ทำให้ “Iron Man 3″ เพียงแค่เปิดตัววันแรกก็กอบโกยรายได้มากถึง 47 ล้านบาท ขึ้นอันดับหนึ่งทั่วเอเชียทุบสถิติ “The Avengers” มาแล้ว รวมทั้งยังมีคนต่อคิวรอดูกันอีกมากมาย จนแทบจะทำให้คนที่พลาดหนังเรื่องนี้คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องกันเลยทีเดียว
ซึ่งกว่าจะเป็นหนังยอดฮิตแบบนี้ได้ “Iron Man” ยังมีความจริงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกมากมายที่แฟนตัวจริงควรรู้ และวันนี้ก็ได้รวบรวม 10 ความจริงของ “Iron Man” จากเว็บไซต์ ELITE TODAY มาฝากกัน ดังนั้นใครที่มั่นใจว่าเป็นแฟนตัวจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ลองมาอ่านกันเลย
1. ใช้เวลา 20 ปี กว่าจะเป็น “Iron Man”
.
ก่อน Iron Man จะได้ปรากฏบนจอภาพยนตร์อย่างทุกวันนี้ หนังที่สร้างจากการ์ตูนซึ่งมีตัวเอกเป็นอภิมหาเศรษฐีอัจฉริยะ “โทนี่ สตาร์ค” เคยมีโครงการจะสร้างเป็นหนังมาตั้งแต่ปี 1990 แล้ว โดยผ่านมือสตูดิโอมาถึง 4 ที่ และล้มเลิกไป จนทาง “Marvel” ตัดสินใจสร้างหนังขึ้นมาเองซะเลย ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจที่เวิร์คที่สุดจนทำรายได้มหาศาล ในขณะที่สตูดิโอที่เคยล้มเลิกคงนึกเสียดายอยู่แน่ๆ
2. แฟนพันธุ์แท้สร้างหุ่น Iron Man มาแล้ว
.
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองแน่ในฐานะแฟน Iron Man แล้ว คงต้องมาเจอกับ “แอนโธนี ลี” ครูฝึกสอนที่ฟิตเนสคนนี้ซะหน่อย เพราะเขาลงทุนสร้างชุดเกราะ Iron Man ขึ้นมาเองเลยทีเดียว และแม้มันจะไม่ได้มีพลังความสามารถเทียบเท่าของจริง (ก็แน่ล่ะ) แต่มันก็มีลูกเล่นเช่นเกราะบริเวณไหล่ รวมทั้งช่วงหลังที่เปิดปิดได้อยู่เหมือนกัน แบบนี้ถ้าแต่งไปประกวดคอสเพลย์แล้วไม่ชนะก็แปลกแล้วล่ะ
3. บ้านของโทนี่มูลค่าสูงถึง 117 ล้านเหรียญสหรัฐ
.
ตามข้อมูลที่เขียนขึ้นมาจากทาง “Marvel” นั้น บ้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของหนุ่ม “โทนี่ สตาร์ค” นั้นอยู่ในเมืองมาลิบู รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งจากที่เห็นในหนังแล้ว ความหรูหราอลังการก็คงทำให้หลายๆ คน นึกสงสัยในราคาของมันขึ้นมาบ้าง โดยจากการประเมินของ “โมโวโต” เจ้าหน้าที่อสังหาริมทรัพย์ในชีวิตจริง ตีราคาให้บ้านที่ไม่มีจริงนี้มีราคาอยู่ที่ 4,690 เหรียญสหรัฐ (ราว 139,000 บาท) รวมมูลค่า 117 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.4 พันล้านบาท) แพงลิบลิ่วสมกับเป็นบ้านของมหาเศรษฐีเสียจริงๆ
4. “โทนี่ สตาร์ค” มีต้นแบบมาจาก ”โฮเวิร์ด ฮิวจ์”
.
เคยสงสัยไหมว่าพระเอกมาดกวนใน Iron Man นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ถึงได้ดูทั้งเท่และกวนประสาทผิดจากฮีโร่คนอื่นๆ ซะขนาดนี้ คำตอบก็คือ เขามีต้นแบบมาจาก “โฮเวิร์ด ฮิวจ์” (Howard Hughes) นั่นเอง โดย “แสตน ลี” (Stan Lee) ผู้สร้าง Iron Man กล่าวว่า เขาเป็นคนที่มีสีสันที่สุดแห่งยุคเลยก็ว่าได้ โดยเป็นทั้งนักประดิษฐ์, นักผจญภัย, มหาเศรษฐีพันล้าน, และนักรักด้วยในเวลาเดียวกัน
5. “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่แก่ที่สุด
.
ลองนึกดูสิ หนังฮีโร่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีพระเอกหนุ่มหล่อวัยรุ่นดึงดูดสาวๆ อยู่แล้ว อย่าง “คริส อีแวนส์” (Chris Evans), “แอนดรูว์ การ์ฟิลด์” (Andrew Garfield) และ “คริส เฮมสเวิร์ธ” (Chris Hemsworth) เป็นต้น ส่วน Iron Man คงไม่อาจพูดว่าเหมือนกับเรื่องอื่นๆ ได้ เพราะ “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” (Robert Downey Jr) เพิ่งฉลองอายุครบ 48 ปี ไปหมาดๆ นี่เอง แต่ยังไงซะ อายุก็ไม่ได้ทำให้หนุ่มคนนี้ดูหล่อเท่น้อยลงเลยสักนิดล่ะนะ
6. ชุด Iron Man อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต
.
บริษัทที่มีชื่อว่า “Lockheed Martin” เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่กำลังทำโครงการสร้างชุดเลียนแบบของ Iron Man ขึ้นมาจริงๆ ซึ่งชุดที่ใช้มีชื่อว่า “Human Universal Load Carrier” (HULC) มีแผนจะใช้ช่วยทหารขนอุปกรณ์น้ำหนักรวมอย่างน้อย 200 ปอนด์ ด้วยความเร็ว 10 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งหากสำเร็จเป็นไปตามแผนเมื่อไหร่ การขนอาหารและยา รวมถึงอาวุธระหว่างเดินทางคงสะดวกคงง่ายขึ้นอีกเยอะ
7. ปีนี้ Iron Man อายุ 50 แล้ว
.
นับแต่ปรากฏตัวในเรื่อง “Tales of Suspense” ตอนที่ 39 ช่วงสงครามเย็น ฮีโร่สุดเท่คนนี้ก็ถูกจับตาในฐานะผู้ต่อต้านคอมมิวนิสต์มาตลอด และต่อสู้กับเหล่าร้ายมามากมายรวมไปถึง “Dr. Doom” และ “Skrulls” อีกทั้งยังได้เป็นหนึ่งในทีมซูเปอร์ฮีโร่มากความสามารถ “The Avengers” ด้วย นับว่าเป็นผลงานที่ไม่เลว สำหรับฮีโร่ใกล้วัยเกษียนที่ตัวเลข 50 เลยทีเดียว
8. กว่าจะเป็น Iron Man ได้ ร้อยล้านเหรียญก็ยังไม่พอ
.
รู้ๆ กันอยู่ว่าฮีโร่ที่รวยที่สุดต้องมีชื่อ Iron Man ติดโผอยู่แน่นอน ซึ่ง “Marvel” ได้เผยข้อมูลออกมาแล้วว่าทรัพย์สินของฮีโร่คนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่บ้าง และมันก็เป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจเลยทีเดียวโดยชุดของเขามีราคาอยู่ที่ 123 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.6 พันล้านบาท), ทรัพย์สินอื่นๆ เช่นคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์รบอีก 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.3 หมื่นล้านบาท), รวมกับรถทั้งหมด 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 100 ล้านบาท) เป็นเงินทั้งสิ้น 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.7 หมื่นล้านบาท)
9. ที่มาของชื่อ “Jarvis”
.
ไม่ว่าใครที่เคยดู Iron Man มาแล้ว ต้องคุ้นกับระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อว่า “Jarvis” นี้แน่นอน ซึ่งมันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฮีโร่หนุ่มคนนี้เลยก็ว่าได้ แต่ที่จริงแล้วชื่อของมันกลับไม่ได้หรูหราอลังการแถมยังกวนนิดๆ สมกับเป็นอุปกรณ์ของโทนี่เสียจริงๆ โดยมันย่อมาจากคำว่า “Just a Rather Very Intelligent System” หรือ ”แค่ระบบการทำงานยอดอัจฉริยะเท่านั้นเอง”
10. “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” เกือบไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Iron Man เสียแล้ว
.
แม้มันจะเป็นเรื่องยากที่จะนึกภาพคนอื่นมาสวมบทบาทนี้นอกจาก “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีดาราชื่อดังถูกทาบทามให้เล่นบทนี้มาก่อนแล้วถึง 2 คน ซึ่งก็คือ “ทอม ครูซ” (Tom Cruise) และ “นิโคลัส เคจ” (Nicolas Cage) แต่หนุ่ม “ทอม ครูซ” ไม่คิดว่าบทนี้จะเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่จึงปฏิเสธไป ในขณะที่ “นิโคลัส เคจ” ติดงานอื่น ทำให้มันตกเป็นของ “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” อย่างทุกวันนี้นั่นเอง
.
และเพราะ 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ Iron Man เหล่านี้นั่นเอง ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเป็นแบบฉบับที่ประสบความสำเร็จมากมายอย่างทุกวันนี้ จนกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์โปรดของหลายๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าตอนนี้ใครยังไม่ได้ไปดู Iron Man 3 ก็อย่าลืมหาโอกาสไปชมกันให้ได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก :: http://movie.kapook.com/
ภาพประกอบจาก :: http://elitedaily.com/entertainment/film/the-10-things-you-didnt-know-about-iron-man/